“โตโน่ ภาคิน เปิดใจครั้งแรก! หลังบวช! ใกล้ถึงวันครบการจากไปของ แตงโม นิดา”…##
|เปิดใจหลังบวช โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เผยความรู้สึกระหว่างศึกษาพระธรรม ตอบแทนชาวไทย และชาวสปป.ลาวพร้อมเปิดความในใจถึงอดีตคนรัก แตงโม นิดา ไม่มีอะไรติดค้าง เพราะในช่วงระยะเวลาที่รักกันทำดีที่สุดแล้ว
เป็นอย่างไรบ้าง กับบวชมา 7 วัน? “เรามีเวลาบวชแค่ 7 วัน ก็พยายามทำกิจของสงฆ์ให้ดีที่สุด เวลาว่างก็จะน้อยเพราะมีพี่น้องประชาชนทั้งฝั่งไทย ฝั่งลาวมาตักบาตร ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจครับที่เห็นภาพคนมากันเต็มโบสถ์ อาจจะเหนื่อยหน่อยตอนบิณฑบาตร แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจส่วนตอนกลางคืนพระอาจารย์จะพานั่งวิปัสสนา ถ้ามีเวลาว่างก็ค่อยทำเพิ่ง 7 วันเรารู้ว่าเวลาน้อยแต่ในทุกๆวันเราได้ทำหน้าที่ของสงฆ์ให้ดีที่สุด เพื่อทุกๆคนด้วยเราก็ตั้งใจทำ ที่ทุกคนมาช่วยกัน เราก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไง การบวชก็น่าจะเหมาะสมที่สุด ขอให้ทุกคนแข็งแรง มีความรักที่ดี มีเงินทองที่ดี มีความสุข ก็ดีใจครับ”

ยอดบริจาคเกินที่คาดหวังไว้เยอะมาก? “ใช่ครับ จริงๆ ได้เท่าไหร่ผมก็ดีใจแล้วครับ พยายามช่วยให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะช่วยได้ ทำได้ แต่พอมันเกินเป้าไปเยอะ จากที่เราอยากจะได้เตียงไอซียูเด็ก 1 เตียงให้ฝั่งนครพนม อยากได้เครื่องเอ็กซ์เรย์สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ที่ทางฝั่งลาว แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ฝั่งนครพนมได้ศูนย์หัวใจเลย ส่วน
ทางฝั่งลาวก็ได้อุปกรณ์ทุกอย่างที่เขาต้องการ ก็ดีใจกับทุกๆคน เป็นเพราะทุกๆคนช่วยกัน”

หลังจากนั้นเราทำอะไรต่อ? “หลังจากลาสิขาออกมาก็มาอยู่อยุธยาครับ คุยกับวงกับผู้จัดการว่าเดือนมกราคม ขอเป็นเดือนที่ไม่ทำอะไรเลย ที่มาอยู่อยุธยา เรารู้ว่าเดี๋ยวเราต้องโปรโมตหนัง ทัวร์คอนเสิร์ต ไปบวชเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ไปอยู่ที่นั่นเราได้เก็บตัวซ้อมกับเพื่อนๆ ทีมฟุตบอล ได้ฟิตเนส ว่ายน้ำ ได้เตรียมความพร้อม แล้วโชคดีที่ปีนี้อากาศเย็นหลายวัน ผมได้เอามอเตอร์ไซค์ไปขี่เล่นรอบเมืองตอนกลางคืน เหมือนได้พักผ่อนไปในตัวด้วย”
อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบการจากไปของแตงโมแล้ว? “ตอนที่เราได้รักกัน ได้อยู่ด้วยกันเราทำดีที่สุดแล้วครับ ผมเลยไม่มีอะไรที่ติดค้าง เสียใจ หรือเสียดายอะไร ก่อนที่จะเกิดเรื่องกับโม เราก็ยังมีโอกาสได้เจอกัน ก็ได้คุยกัน เขาก็ได้พูดในสิ่งที่เขาอยากจะพูด เขาก็ดีใจที่เขาได้พูด ผมคิดว่าระหว่างเรา..ให้เก็บเป็นความทรงจำที่ดีดีกว่า ดีที่สุดแล้ว”

คนรอบตัวยังรู้สึกว่ามันเหมือนความฝันไม่ใช่เรื่องจริง? “มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด แต่ตัวเราเอง ชีวิตผมอยู่กับเรื่องของความสูญเสียมาตั้งแต่เด็ก เราก็เลยค่อนข้างจะเข้าใจได้ว่าบางทีเราทำได้แค่ควบคุมในสิ่งที่เราทำได้ ดูแลตัวเอง ให้เกียรติผู้อื่น แต่ว่าเราจะอยู่ได้นานขนาดไหน อันนี้เราไม่สามารถกำหนดได้