ช้าง “สุพรรษา” ซึมงวงกอดรูปน้องฟิล์มก่อนเผา ป้าถูกสิง-แม่เปิดโลงลาใจจะขาดใครที่สาธุขอให้ครอบครัวทุกคนปลอดภัย(คลิป)

ช้าง “สุพรรษา” ซึมงวงกอดรูปน้องฟิล์มก่อนเผา ป้าถูกสิง-แม่เปิดโลงลาใจจะขาดใครที่สาธุขอให้ครอบครัวทุกคนปลอดภัย(คลิป)

จากเหตุการณ์สลด “น้องฟิล์ม” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ถูกพบเสียชีวิตปริศนาอยู่ในป่าข้างโรงเรียน ซึ่งทางคุณครูไปพบน้องฟิล์ม นอนหมดสติอยู่ในป่าหลังโรงเรียน หลังจากร่วมกับเพื่อน ๆ วิ่งหนีครูฝ่ายปกครอง เพราะไม่อยากร่วมกิจกรรมสวดมนต์ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 6 ก.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของน้องฟิล์มที่บ้านสำโรง ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ บรรยากาศที่บ้านในช่วง 07.40 น. มีเพื่อนของน้องฟิล์ม และรุ่นน้องจากโรงเรียนสตึกกว่า 100 คน ทยอยเดินทางมาที่บ้านงาน และมีการร่วมกันถ่ายภาพเพื่อแสดงความอาลัยร่วมกันที่หน้าโลงศพ พร้อมกับพ่อและแม่ของน้องฟิล์มเป็นครั้งสุดท้าย

ซึ่งในส่วนของช้างที่มาร่วมพิธีเคลื่อนศพของน้องฟิล์มไปที่วัด มีช้างมาในตอนเช้าจำนวน 5 เชือก รวมเจ้าสุพรรณษา โดยช้างที่มีอายุเยอะที่สุดคือพังสมหญิง อายุ 43 ปี รองมาคือพังหนุ่มเสก 39 ปี พังมาลัย 29 ปี และพังศิริมงคล 19 ปี โดยอาการของเจ้าพังสุพรรณษา ช่วงเช้าก่อนที่จะเดินไปเข้าพิธี มีอาการร่าเริง กินหญ้าได้ตามปกติ มีบางช่วงบางตอนเต้นต่อหน้ากล้อง

จากนั้นเวลา 09.00 น. ทางครอบครัวของน้องฟิล์ม ได้จัดเตรียมรถเพื่อใส่โลงเย็นของน้องฟิล์ม ไปที่วัดป่าหนองพะยอม ในหมู่บ้านสำโรง หมู่ 3 ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะมีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร ก่อนที่จะนำโลงศพของน้องฟิล์มไปขึ้นรถ พ่อของน้องฟิล์มก็นั่งร้องไห้กอดรูปของน้องฟิล์ม ตลอดจนเดินนำรูปออกมาจากบ้าน

ต่อมาเมื่อได้กำหนดการเคลื่อนศพออกจากบ้าน มีเพื่อนของน้องฟิล์มเป็นคนมาช่วยยกโลงขึ้นรถ แต่ก่อนจะยกโลงขึ้น มีทางควาญช้างเข้าไปทำพิธีสวดคาถา และนำกาบกล้วยไปวางไว้ที่หน้าบ้าน ก่อนจะช่วยกันยกโลงไปขึ้นรถ ซึ่งในขณะที่ยกโลงของน้องฟิล์มขึ้นรถ แม่ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้านแทบขาดใจ

จากนั้นมีการเคลื่อนศพของน้องฟิล์ม ออกจากบ้านเวลา 09.24 น. มีช้างนำขบวน และมี น.ส.นริศรา น้อยถนอม อายุ 17 ปี เพื่อนสนิทของน้องฟิล์มเป็นคนถือรูปของน้องฟิล์มเดินไปวัด เมื่อเคลื่อนศพของน้องฟิล์มถึงหน้าหมู่บ้าน ทางคณะครูได้นำวงดุริยางค์ของโรงเรียน บรรเลงเพลงเพื่อนำศพของน้องฟิล์มไปที่วัด

บรรยากาศระหว่างการเดินทาง มีบางช่วงบางตอนที่จะเห็นว่าน้องนริศรา เพื่อนสนิทของน้องฟิล์มมีสีหน้าโศกเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา การเคลื่อนศพของน้องฟิล์มใช้เวลาเดินทางกว่า 1 ชั่วโมง ทันทีที่เคลื่อนศพถึงทางเข้าวัดมีควาญช้างจากช่อง “elephant Thailand” นำช้างมาร่วมเคลื่อนศพเข้าไปในวัดอีก จำนวน 3 เชือก คือ 1.พังบัวบาน 2.พังชื่นใจ 3. พังนาโน

จากนั้นเมื่อศพของน้องฟิล์มถูกเคลื่อนมาถึงวัด ให้ช้างเดินนำหน้าเวียนรอบเมรุ จำนวน 3 รอบ โดยบรรยากาศในช่วงนี้เป็นไปด้วยความโศกเศร้า คนเป็นแม่ก็ได้แต่ยืนร้องไห้ กระทั่งเมื่อเคลื่อนศพของน้องฟิล์ม ครบ 3 รอบ สังเกตเห็นว่าน้องนริศรา เพื่อนสนิทของน้องฟิล์ม ร้องไห้ออกมาไม่หยุดในขณะที่เดินคุยมากับนางเปรมปรีดา คนสนิทของครอบครัว เหมือนกับนางเปรมปรีดากำลังสื่ออะไรกับน้องนริศรา กระทั่งเมื่อถึงหน้าเมรุ นางเปรมปรีดาก็เข้าไปกอดพ่อของน้องฟิล์ม แล้วก็บอกว่า “หนูจะไปแล้วนะพ่อ” จนทำให้พ่อและแม่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

พ่อได้พูดขึ้นมาว่า “ไม่ต้องห่วงเจ้าสุพรรณษานะลูก เดี๋ยวพ่อจะดูแลเอง” ซึ่งระหว่างที่นางเปรมปรีดากอดอยู่กับแม่ ก็ยกมือขึ้นมาโบกลาเพื่อน ๆ ของน้องฟิล์ม แล้วก็หันมาพูดกับน้องนริศราว่า “อย่าลืมที่ข้าบอกเอ็งนะ อย่าลืมที่ข้าบอกไว้ เอ็งต้องทำให้ได้”

จังหวะนั้น ทีมข่าวก็ได้มีโอกาสสอบถามกับนางเปรมปรีดาว่าใช่น้องฟิล์มหรือไม่ นางเปรมปรีดาก็บอกว่าใช่ แล้วก็บอกว่า “น้องฟิล์มคิดถึงทุกคน น้องฟิล์มขอขอบคุณทุกท่านที่มาช่วยงานในวันนี้ ฟิล์มขออนุโมทนาบุญให้กับทุกคน ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขความเจริญ” กระทั่งบอกลา แล้วนางเปรมปรีดาก็หงายหลังไป จนญาติของน้องฟิล์มต้องนำยาดมมาให้

น.ส.นริศรา น้อยถนอม อายุ 17 ปี เพื่อนสนิทของน้องฟิล์ม บอกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าวิญญาณที่เข้าป้าเปรมปรีดา เป็นน้องฟิล์ม เนื่องจากตอนที่เดินคุยกันมาเขาร้องไห้ตลอดเวลา แล้วก็พูดขึ้นมาว่าให้ดูแลช้างให้ดี ยิ่งไปกว่านั้นเขายังคิดถึงเพื่อนและฝากขอบคุณเพื่อนทุกคนที่มาช่วยงาน
ตนยอมรับว่าส่วนตัวมีความสนิทสนมกับฟิล์มมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่คบกันมาฟิล์มเป็นคนดี ขยัน กตัญญูพ่อแม่ และเป็นที่รักของเพื่อนตนเองจึงสื่อความหมายหลายอย่างได้จากวิญญาณของฟิล์ม ตอนที่คุยกับวิญญาณของฟิล์มก็รับปากไปว่าจะเข้าไปดูแลช้างให้เท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่ฟิล์มจากไป ไม่ได้มาเข้าฝันเพื่อน ซึ่งทำให้ตนเองรับรู้ได้ว่าฟิล์มไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้ว

หลังจากนั้นได้มีการแสดงรำพื้นบ้าน จากนักเรียนโรงเรียนสตึก และโรงเรียนบ้านช้างท่าตูม กระทั่งก่อนจะมีการฌาปนกิจ เพื่อนของน้องฟิล์มจากโรงเรียนสตึกออกมาร่วมกันร้องเพลง “ไม่เคย ของวง 25

และเพลง “ฉันจะมีเธออยู่ ของวงสิงโต นำโชค” เพลง “เราและนาย ของเสกโลโซ” เพลง “ซ่อนกลิ่น ของปาล์มมี่” เพื่อส่งวิญญาณของน้องฟิล์ม เป็นครั้งสุดท้ายที่หน้าเมรุ

จากนั้นคนสำคัญที่เป็นแฟนคลับน้องฟิล์มได้เดินไปร้องเพลงเป็นเพลงสุดท้าย ชื่อเพลงว่า “ฟิล์มสุพรรณษา มิตรภาพที่แตกต่าง” โดยน้องไข่มุก ไมค์ทองคำ ระหว่างที่ร้องเพลงอยู่นั้น เจ้าสุพรรษาก็มายืนเต้นอยู่ที่ด้านหลัง จนทางพ่อของน้องฟิล์มต้องเดินเข้าไปกอด บรรยากาศในช่วงนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้าทั้งที่เป็นเพลงเร็ว เนื่องจากเจ้าสุพรรณษาร้องเป็นเสียงช้างออกมาเป็นระยะทำเอาคนเป็นพ่อกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

หลังจากนั้นเป็นบรรยากาศการวางดอกไม้จันทน์ เพื่อส่งน้องฟิล์ม ก่อนจะนำร่างของน้องฟิล์มเข้าไปในเตาเผา พ่อกับแม่ก็ขึ้นไปดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย โดยพ่อกับแม่ก็ได้พูดลาลูก บอกว่า “เกิดชาติหน้าฉันใดให้กลับมาเป็นลูกของพ่อและแม่อีก เราไม่มีเวรต่อกัน กลับมาเป็นลูกของพ่อและแม่นะ” ซึ่งเมื่อเปิดโลงของน้องฟิล์มออกมา พ่อก็ได้เข้าไปจับมือลูก ก่อนจะมีพิธีล้างหน้าศพก่อนนำเข้าเตาเผา
แม่เมื่อเดินลงมาจากเมรุก็กอดรูปของลูกสาว ร้องไห้แทบขาดใจ ส่วนคนเป็นพ่อก็เอารูปของลูกสาวไปบอกลากับเจ้าสุพรรณษาเป็นครั้งสุดท้าย โดยบรรยากาศในช่วงนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากเจ้าสุพรรณษาร้องออกมาเป็นระยะเหมือนกับรู้สึกได้แล้วว่าน้องฟิล์มจากไป

ล่าสุด เวลาประมาณ 15.40 น. ครอบครัวนำศพของน้องฟิล์มเข้าเตาเผา เป็นอันสิ้นสุดพิธี

VDO